นี่คือวิธีที่ Facebook ติดตามคุณเพื่อการโฆษณา

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม Facebook จึงรู้ว่าคุณกำลังสนใจเรื่องอะไรและคิดอยากทำอะไร ไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปกิน ไปดูหนัง หรือฟังเพลง หรือแม้แต่คิดอยากได้เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านบางชิ้น Facebook ก็ยังแสดงโฆษณาสิ่งที่คุณกำลังคิดบนหน้าฟีดข่าวได้ ก่อนหน้านี้เราได้อ่านบทความเกี่ยวกับการติดตามโฆษณาของ Facebook และ Google ที่ออกมาเปิดเผยโดยอดีตผู้บริหารระดับสูงของ Google ถึงการสร้างตุ๊กตาอวตารในระบบที่สามารถคิดเหมือนตัวคุณ แต่รายงานจาก BuzzFeed จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการติดตามโฆษณาของ Facebook ได้มากขึ้น วิธีที่ Facebook ติดตามคุณเพื่อการโฆษณา ร่องรอยการใช้งานบนแพลตฟอร์ม Facebook และการท่องอินเทอร์เน็ตของคุณได้ถูกเก็บรวบรวมไว้เพื่อเป้าหมายโฆษณาโดยที่คุณอาจไม่ทันรู้ตัวว่าข้อมูลเหล่านี้มีอะไรบ้าง BuzzFeed ได้อธิบายเกี่ยวกับการติดตามโฆษณาของ Facebook ว่า “Facebook รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ในสองวิธี: ขั้นแรกคือข้อมูลที่คุณป้อนลงในเว็บไซต์และแอพ และขั้นที่สองโดยการติดตามเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมในขณะที่คุณไม่ได้ใช้ Facebook นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่คุณเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าคุณจะเห็นโฆษณาในฟีดข่าว Facebook หรือฟีด Instagram ของคุณ โดยทั่วไปแล้ว Facebook จะตรวจสอบตำแหน่งที่คุณไปทุกที่ในอินเทอร์เน็ตและใช้รอยเท้าดิจิทัลของคุณเพื่อกำหนดเป้าหมายคุณด้วยโฆษณา” “Facebook ติดตามประวัติการเข้าชมของคุณผ่านทางปุ่ม "เข้าสู่ระบบด้วย Facebook" ปุ่ม "ชอบ" ความคิดเห็นใน Facebook และรหัสที่มองไม่เห็นเล็กน้อยซึ่งเรียกว่าพิกเซล Facebook …

5 เทคนิคสร้างรายได้ด้วย Facebook Watch

คุณเคยเข้าไปดูวิดีโอเรื่องราวต่าง ๆ ใน Watch กันบ้างไหม? มีหลายเหตุผลที่คุณควรใช้ Watch เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายและสร้างรายได้เพิ่มเติม เพราะอะไรน่ะหรือ? Watch นอกจากจะเป็นแหล่งรวมวิดีโอเรื่องราวสนุกสนานบันเทิงแล้วยังเป็นที่สำหรับกลุ่มคนที่มีความชอบที่คล้าย ๆ กันอีกด้วย หลายธุรกิจได้เข้าร่วม Watch เพื่อแสดงวิดีโอเนื้อหารวมทั้ง Live สด วิธีการเข้าร่วม Watch ไม่ยากเพียงคุณสร้างเนื้อหาวิดีโอที่มีความยาวตามกำหนดแล้วเผยแพร่ในเพจของคุณ ผู้ติดตามและแฟนเพจของคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการแบ่งปันวิดีโอหรือโพสต์เนื้อหาวิดีโอโดยอัตโนมัติ ทำไมคุณจึงควรใช้ Watch? Watch ช่วยสร้างรายได้จริงหรือไม่? จะสร้างรายได้จาก Watch อย่างไร? คำตอบทั้งหมดอยู่ด้านล่างนี้แล้วค่ะ เหตุผลที่คุณควรใช้ Watch ตอนนี้ Watch เป็นมากกว่าแค่ช่องทางชมวิดีโอเรื่องราวสนุกสนานบันเทิง Watch เปิดตัวทั่วโลกยังไม่ถึงหนึ่งปีเต็มแต่ในขณะนี้มีผู้เข้าชมรายวันมากถึง 140 ล้านคนที่ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งนาทีใน Watch โดยเฉลี่ยแล้วผู้เข้าชมรายวันใช้เวลามากกว่า 26 นาทีในการดูทุกวัน และมากกว่า 720 ล้านคนต่อเดือนที่เข้าชมอย่างน้อยหนึ่งนาที Image: Facebook แต่ไม่เพียงเท่านั้น Facebook ได้ปรับปรุง Watch ให้มีความน่าสนใจและเป็นแหล่งเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่มีความหมายสำหรับคุณ …

Facebook เปิดให้สร้างการ์ตูนเสมือน Avatar เวอร์ชั่นของคุณ

อีกไม่นานผู้ใช้ Facebook และ Messenger จะมีตัวเลือกใหม่ให้เล่นสำหรับการส่งข้อความแล้วล่ะ เมื่อ Facebook เปิดตัว Facebook Avatars ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่คล้ายกับ Bitmoji การ์ตูนเสมือนเวอร์ชั่นของคุณเอง TechCrunch รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า Facebook กำลังเปิดตัว Bitmoji - Facebook Avatars เวอร์ชั่นของตัวคุณเองซึ่งผู้ใช้สามารถใช้เป็นสติกเกอร์ตัวคุณในการแสดงความคิดเห็นและการแชทบน Facebook และ Messenger “คุณสมบัติอวตารใหม่ของ Facebook ให้คุณปรับแต่งอัตลักษณ์เสมือนจริงของตัวคุณเองเพื่อใช้เป็นสติกเกอร์ในการแชทและแสดงความคิดเห็น เมื่อคุณปรับแต่งหน้าใบหน้า เส้นผมและเสื้อผ้าของ Avatar ให้เป็นรูปเป็นร่างพวกเขาจะติดสติกเกอร์ที่อัปเดตอยู่บ่อยครั้งซึ่งถ่ายทอดอารมณ์และวลีทั่วไป จากไลค์ถึงปฏิกิริยาถึงอวตารของคุณ จะเห็นว่านี่เป็นความก้าวหน้าตามธรรมชาติของการแสดงออกใน Facebook” Jimmy Raimo ผู้จัดการด้านการสื่อสารของ Facebook Avatars กล่าวว่า บริษัทได้ทำงานอย่างหนักเพื่อนำเสนอมุมมองของผลิตภัณฑ์และการออกแบบให้คลอบคลุมผู้ใช้ Facebook ที่มีหลากหลายเชื้อชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่การเสนอเสื้อผ้าทางศาสนา เช่น ฮิญาบ ไปจนถึงสีผิวและทรงผมเรนโบว์ Facebook ไม่ต้องการให้มีกลุ่มประชากรใดตกหล่น TechCrunch ยังระบุในรายงานอีกว่า “Facebook …

5 แนวทางทำงานกับคนเป็นพิษอย่างไรไม่ให้เครียด

สังคมในที่ทำงานไม่ได้สวยหรูผู้คนดูดีมีจิตเมตตาเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันและกันไปซะทุกแห่ง ในหลายที่ทำงานหรือเกือบจะทุกที่ทำงานเลยก็ว่าได้ มันต้องมีซักคนสองคนซิน่าที่มักสะใจหากทำให้เพื่อนร่วมงานไม่เป็นสุข เพื่อนร่วมงานที่เป็นพิษ (Toxic colleagues) มักไม่รู้ถึงผลกระทบด้านลบที่พวกเขามีต่อคนรอบข้างและดูเหมือนพวกเขาจะชอบใจที่สร้างความโกลาหลและทำให้คนอื่นไม่เป็นสุขซะด้วย พวกเขาใช้เวลาสร้างความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น ความขัดแย้งและความเครียดต่อเพื่อนร่วมงานจนทำเอาบางคนถึงกลับอยากจะลาออกเพื่อหนีคนแบบนี้ไปให้รู้แล้วรู้รอด การแก้ไขหรือเปลี่ยนพฤติกรรมของคนเหล่านี้คงต้องใช้เวลานานมาก ๆ หรืออาจไม่สามารถทำได้เลย วิธีที่คุณจะทำงานร่วมกับคนที่เป็นพิษได้อย่างราบรื่น คุณคงต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับคนประเภทนี้โดยไม่กระทบกับงานและสถานที่ทำงานของคุณ 5 แนวทางทำงานกับคนเป็นพิษต่อสภาพจิตของคุณ เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงหรือไม่ร่วมงานกับคนที่เป็นพิษ คนเหล่านี้มักแฝงอยู่ในแทบทุกองค์กร พวกเขามักต้องการเรียกร้องความสนใจและทำตัวเหนือผู้อื่น ขี้อิจฉา ไม่ต้องการให้ใครได้ดี อารมณ์แปรปรวน มีอีโก้หรือความเชื่อมั่นตัวเองสูงและมองผู้อื่นด้อยกว่าตน คุณควรเตรียมใจและพลังบวกเพื่อรับมือหากต้องทำงานร่วมกับคนที่เป็นพิษ 5 แนวทางนี้น่าจะช่วยผ่อนคลายให้คุณมีสุขภาพจิตและพร้อมรับมือกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นพิษได้บ้าง 1. ควบคุมอารมณ์และพลังบวกของคุณ คุณไม่สามารถควบคุมการกระทำของคนที่เป็นพิษแต่คุณสามารถควบคุมอารมณ์และพลังของคุณให้มีความหนักแน่นและอย่าใส่ใจกับการกระทำหรือคำพูดที่เป็นพิษต่อสภาพจิตของคุณ จริงอยู่มันยากที่จะไม่คิดหรือพูดตอบโต้กลับ แต่การที่คุณไม่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่คนอื่นทำหรือสิ่งที่เขาหรือเธออาจทำต่อไปจะช่วยให้อารมณ์ของคุณไม่เสียและไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ การควบคุมอารมณ์และพลังบวกของคุณจะเป็นกำแพงกั้นพิษต่อสภาพจิตของคุณได้เป็นอย่างดี 2. ผ่อนคลายด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศ หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงคนที่เป็นพิษในที่ทำงานได้เพราะโต๊ะทำงานดันติดกันหรืออยู่ในรัศมีที่ต้องเห็นกันตลอดวันละก็ หาเวลาผ่อนคลายความเครียดที่ต้องเผชิญหน้าคนที่เป็นพิษด้วยการเดินเล่นช่วงพักเที่ยง หรือไปทานอาหารกลางวันข้างนอก หากที่ทำงานมีสวนสาธารณะคุณอาจออกไปเดินเล่นในช่วงเบรคสั้น ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันสภาพจิตของคุณ 3. ยืนหยัดเพื่อตนเองและเพื่อนร่วมงานที่รู้สึกเช่นเดียวกับคุณ หากคนที่เป็นพิษสร้างความเครียดให้กับคุณและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ด้วยและหลายคนมีความรู้สึกคล้ายกันว่าได้รับความเครียดจากการกระทำของคน ๆ นั้นและทำให้บรรยากาศการทำงานไม่มีความสุข คุณและเพื่อนร่วมงานที่รู้สึกเช่นเดียวกันอาจรวมตัวกันเพื่อขอคำปรึกษากับฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือคนที่มีอำนาจเพื่อขอคำแนะนำ 4. อย่าปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัว เพื่อนร่วมงานที่เป็นพิษมักจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยใจและท้อแท้ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเจอหน้า กังวลที่จะต้องทำงานร่วมกัน วิธีที่ดีที่สุดคือ อย่าเอาใจใส่หรือผูกมัดตัวคุณกับใครบางคนในด้านลบ …

ทำไมคุณจึงไม่ควรซื้อไลค์และผู้ติดตามใน Instagram

แน่นอนว่าสำหรับผู้มีอิทธิพลหรือ Influencers คงจำเป็นต้องมีผู้ติดตามจำนวนมากและต้องการยอดไลค์จำนวนมากเพื่อให้บริษัทต่าง ๆ สนใจจ้างให้โปรโมทผลิตภัณฑ์/บริการของพวกเขา จำนวนการถูกใจหรือจำนวนผู้ติดตามสูงไม่ใช่มาตรฐานในการวัดคุณค่าประสิทธิภาพของผลงานอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันการซื้อไลค์และผู้ติดตามผ่านแอพบุคคลที่สามกลับเป็นอันตรายมากกว่าผลดี เมื่อไม่นานมานี้ Instagram ได้ออกมาประกาศว่าจะลบบัญชีที่ซื้อไลค์และผู้ติดตามปลอม และ Google Play Store ก็ได้กำจัดแอพที่อ้างว่าให้ความช่วยเหลือสื่อโซเชียล แอพเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีข้อเสนอที่ฟังดูดีเกินจริงแต่มันอาจเป็นเรื่องหลอกลวงและต้องการขโมยรหัสผ่าน Instagram ของคุณมากกว่า ทำไมคุณจึงไม่ควรซื้อไลค์และผู้ติดตาม 1. การเพิ่มยอดไลค์และผู้ติดตามผ่านแอพบุคคลที่สามอาจเป็นสาเหตุให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้อย่างง่ายดาย จากการตรวจสอบโดยองค์กรรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Malwarebytes Labs แอพเพิ่มผู้ติดตาม Instagram เหล่านี้เป็นเพียงวิธีที่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงรหัสผ่านของคุณ หากคุณติดตั้งแอพมันจะขอข้อมูลส่วนตัวรวมถึงรหัสผ่าน Instagram และหากคุณใช้รหัสผ่านเดียวกันสำหรับหลายบัญชีคุณอาจเสี่ยงต่อการถูกแฮ็กบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น หากคุณซื้อผู้ติดตามปลอมและให้ที่อยู่อีเมล์ของคุณก็เท่ากับคุณเปิดโอกาสให้มีการแพร่กระจายสแปมที่อาจมาทางอีเมล์และอาจส่งไปหาเพื่อนของคุณแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้บัญชี Instagram ก็ตาม ผู้ส่งอีเมลขยะเหล่านี้สามารถเข้าถึงผู้ติดตามของคุณเพื่อส่งสแปมของคุณได้เช่นกัน ผู้ติดตามของคุณบางคนจะติดตามพวกเขา (เพียงเพราะพวกเขาเห็นคุณ) และเมื่อพวกเขาค้นพบคุณภาพของบัญชีเหล่านี้ผู้ติดตามที่แท้จริงของคุณอาจเลิกติดตามคุณ 2. Instagram กำลังกำจัดบัญชีที่ซื้อไลค์และผู้ติดตามปลอม เมื่อไม่นานมานี้ Instagram ได้ออกมาประกาศว่าจะลบบัญชีที่ซื้อไลค์และผู้ติดตามปลอม ตอนนี้แพลตฟอร์มกำลังใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อช่วยระบุบัญชีที่มีผู้ติดตามปลอมและไลค์โดยการลบออก นอกจากนี้ยังแจ้งว่าจะแจ้งเตือนผู้ที่เคยทำสิ่งนี้ผ่านแอพของบุคคลที่สามว่าพวกเขาควรเปลี่ยนรหัสผ่านเนื่องจากความเสี่ยงที่เกิดจากแอพเหล่านั้น การซื้อผู้ติดตามปลอมและไลค์ปลอมยังขัดต่อนโยบายและข้อกำหนดในการให้บริการของ Instagram และบัญชีของคุณอาจถูกระงับเนื่องจากมีส่วนร่วมในการละเมิดกฎเกณฑ์ของ Instagram 3. ผู้ติดตามปลอมและไลค์ปลอมจะไม่มีส่วนร่วมกับโพสต์ของคุณ ส่วนใหญ่แล้วผู้ติดตามปลอมหรือไลค์ปลอมที่คุณซื้อมาไม่ใช่คนจริง ๆ แต่พวกมันคือ “บอท” …

Facebook เปิดศูนย์อบรมเสริมทักษะพลเมืองดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิก

ในขณะที่อินเทอร์เน็ตเริ่มมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ ความไม่ปลอดภัยในการท่องอินเตอร์เน็ตก็เพิ่มสูงมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการกลั่นแกล้ง ข่าวปลอม การขโมยข้อมูล ความเป็นส่วนตัว ความเกลียดชัง การแสดงความคิดและการโต้ตอบออนไลน์ หรือร่องรอยดิจิทัลที่คุณทิ้งไว้ Facebook ต้องการให้ความรู้เพื่อป้องกันผู้ใช้โดยเฉพาะเยาวชนเกี่ยวกับความปลอดภัยและวิธีหลีกเลี่ยง รวมทั้งแนวคิดในการโต้ตอบและรู้ทันโลกดิจิทัล หรือที่เรียกว่า “การเป็นพลเรือนดิจิทัล (Digital Citizenship)” คุณควรทำอย่างไรที่จะอยู่ในสังคมดิจิทัลอย่างปลอดภัยและมีทักษะที่แข็งแรงในการตัดสินใจว่าสิ่งใดควรและสิ่งใดไม่ควร ข่าวสารจริงหรือปลอม Facbook ได้เปิด “We Think Digital” เพื่อเป็นศูนย์การศึกษาหาความรู้สำหรับพลเมืองดิจิทัลและเพิ่มทักษะที่จำเป็นในการค้นหาข้อมูลออนไลน์เพื่อการเชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับชุมชนทั่วโลกอย่างมีวิจารณญาณ Facebook ประกาศว่า “วันนี้เรากำลังเปิดตัว We Think Digital พอร์ทัลการศึกษาออนไลน์ที่มีบทแนะนำเชิงโต้ตอบที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้คนคิดอย่างมีวิจารณญาณและแบ่งปันทางออนไลน์ผ่านทางความคิด เราออกแบบโปรแกรมโดยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากทั่วเอเชียแปซิฟิกและมุ่งมั่นที่จะฝึกอบรมผู้คนจำนวน 1 ล้านคนใน 8 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2020 ด้วยทรัพยากรของเราใน 6 ภาษา” โครงการ We Think Digital มีบทเรียนออนไลน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักวิชาการและนักข่าวที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคโดยแบ่งออกเป็น 4 โมดูล คือ 1. อินเทอร์เน็ตคืออะไร: คำอธิบายเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียวิธีทำงานและความสำคัญของการเป็นพลเมืองดิจิทัล 2. Digital Footprint …

4 เรื่องที่ Facebook เรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศออกกฎสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ต

หลังจากเหตุการณ์กราดยิงผู้คนในประเทศนิวซีแลนด์ที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ทำให้หลายฝ่ายต่างมีความเป็นห่วงว่าอินเทอร์เน็ตกำลังสร้างความน่าสะพึงกลัวให้กับชาวโลกมากกว่าการเชื่อมต่อโลกให้แคบลงและสร้างมิตรภาพที่ดีระหว่างผู้คน การใช้ตัวเลือกในโซเชียลมีเดียเพื่อไลฟ์สดเหตุการณ์รุนแรง เหตุการณ์ฆ่าตัวตาย เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายผู้อื่น รวมถึงเหตุการณ์กราดยิงในนิวซีแลนด์ที่เกิดจากความเกลียดชังเป็นเรื่องที่นายมาร์คคิดว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลควรหันมาร่วมมือกับ Facebook เพื่อออกกฎในการใช้อินเทอร์เน็ต ในฐานะของเจ้าพ่อโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก Facebook คิดว่าบริษัทควรมีบทบาทในการสร้างความมั่นใจว่าอินเทอร์เน็ตยังคงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้คนหลายพันล้านคนแม้ว่าบริษัทจะล้มเหลวในการป้องกันความปลอดภัยที่ดูเหมือนจะเพิ่มความถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ Mark Zukerberg ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Facebook กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลยกระดับและแบ่งปันความรับผิดชอบบางส่วนเพื่อให้ประชาชนของพวกเขาปลอดภัยบนโลกออนไลน์ โดยเขาได้กล่าวในโพสต์ส่วนตัวว่า “ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาโดยมุ่งเน้นที่เนื้อหาที่เป็นอันตรายความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งและความเป็นส่วนตัว ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดบทบาทที่เราต้องการให้บริษัทและหน่วยงานของรัฐมีส่วนร่วมในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ดังนั้นฉันจึงเขียนวิธีการกำหนดระเบียบวิธีที่สามารถช่วยได้ --- เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเราและบริษัท เช่น Facebook มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ทุกวันเราตัดสินใจเกี่ยวกับคำพูดที่เป็นอันตราย สิ่งที่ถือเป็นการโฆษณาทางการเมืองและวิธีการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อน สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อการทำให้ชุมชนของเราปลอดภัย แต่ถ้าเราเริ่มต้นจากศูนย์เราจะไม่ขอให้บริษัททำการตัดสินใจเหล่านี้เพียงอย่างเดียว ฉันเชื่อว่าเราจำเป็นต้องมีบทบาทมากขึ้นสำหรับรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล โดยการอัปเดตกฎสำหรับอินเทอร์เน็ตเราสามารถรักษาสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้" 4 เรื่องที่ Facebook เรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบใหม่ 1. เนื้อหาที่เป็นอันตราย แม้ว่า Facebook จะมีการทบทวนนโยบายของบริษัทอย่างต่อเนื่องกับผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ยังมีความผิดพลาด ในฐานะที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook คิดว่าบริษัทมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของผู้คนที่ใช้บริการของบริษัท นายมาร์คกล่าวว่า “ผู้ร่างกฎหมายมักบอกฉันว่าเรามีพลังอำนาจในการพูดมากเกินไปและฉันก็เห็นด้วย ฉันเชื่อว่าเราไม่ควรทำการตัดสินใจที่สำคัญมากมายเกี่ยวกับการพูดด้วยตนเอง ดังนั้นเรากำลังสร้างองค์กรอิสระเพื่อให้ผู้คนสามารถอุทธรณ์การตัดสินใจของเรา นอกจากนี้เรายังทำงานร่วมกับรัฐบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสในการรับรองประสิทธิภาพของระบบตรวจสอบเนื้อหา” เขายังกล่าวว่า “Facebook ได้เผยแพร่รายงานความโปร่งใสเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการลบเนื้อหาที่เป็นอันตราย ฉันเชื่อว่าทุกบริการอินเทอร์เน็ตที่สำคัญควรทำทุกไตรมาสเพราะมันสำคัญเท่ากับการรายงานทางการเงิน” 2. …

Facebook Messenger กับฟีเจอร์ใหม่ที่คุณควรรู้

แอพส่งข้อความได้กลายเป็นที่สำหรับการติดต่อสื่อสารสำคัญสำหรับเพื่อน ครอบครัว และธุรกิจไปแล้วและมันก็ช่วยให้การติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Facebook Messenger จะเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจเพราะสามารถเชื่อมต่อระหว่างเพจกับผู้ติดตามได้โดยตรง Facebook ได้เปิดตัว Messenger 4 ที่เน้นความเรียบง่ายและทันสมัยเนื่องจากการศึกษาล่าสุดของ Messenger พบว่าผู้คน 71% บอกว่าความเรียบง่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาในแอพส่งข้อความ 62% บอกว่าการส่งข้อความทำให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับเพื่อนมากขึ้น Messenger 4 จะเน้นความง่ายในการนำทางเพื่อให้คุณสะดวกในการใช้งานระหว่างแชททั้งแบบตัวต่อตัวและแบบกลุ่มพร้อมกล้องที่ด้านบนเพื่อให้คุณสามารถจับภาพและแบ่งปันภาพถ่ายเซลฟี่ของคุณได้อย่างง่ายดาย เมื่อแตะเข้าสู่ตัวเลือกแท็บผู้คนคุณจะสามารถค้นหาเพื่อน, ติดตามเรื่องราวของผู้คน, และเห็นทุกคนที่กำลังใช้งานอยู่ในเวลานั้น นอกจากนี้แท็บ Discover จะให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับธุรกิจเพื่อรับข้อเสนอล่าสุด, เล่นเกมส์ทันที, จองวันหยุดพักผ่อนครั้งต่อไปของคุณ, ติดตามข่าวสารและอื่น ๆ https://www.facebook.com/messenger/videos/530927714000238/ Messenger 4 มีฟีเจอร์อะไรใหม่ที่คุณควรรู้ 1. Dark Mode Facebook ได้เปิดตัว Messenger 4 โหมดมืดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนพื้นหลังจากสีขาวเป็นสีดำ Facebook ได้ทำให้คุณสามารถค้นหาตัวเลือกนี้ง่ายขึ้นในแอพ Messenger เพียงคุณส่งอีโมจิพระจันทร์เสี้ยวในแชท Messenger ใด ๆ คุณก็สามารถปลดล็อคการตั้งค่าด้วยการเลื่อนแถบด้านหลังเพื่อเปิดโหมดมืด ข้อดีของการตั้งค่าโหมดมืดคือ มันจะช่วยถนอมสายตาของคุณจากการใช้งานบนมือถือในที่ที่แสงน้อย https://www.facebook.com/messenger/videos/619817701800407/   2. …