Facebook ทดสอบคุณลักษณะการชำระเงินในแอพเพื่อธุรกิจ eCommerce

ธุรกิจขนาดเล็กและร้านค้าปลีกจะได้รับประโยชน์จากคุณลักษณะใหม่ที่ Facebook กำลังทดสอบเพื่อประสิทธิภาพในกระบวนการเช็คเอาต์ออนไลน์ เป้าหมายของการเพิ่มคุณลักษณะการชำระเงินในแอพก็เพื่อช่วยให้กระบวนการอีคอมเมิร์ซมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั่วทั้งครอบครัวของ Facebook ซึ่งรวมถึง Instagram Facebook ต้องการสร้างประสบการณ์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ในขณะเดียวกันก็เพิ่มตัวช่วยในการผลักดันยอดขายให้กับธุรกิจและผู้โฆษณาที่มีอยู่แล้วบนแพลตฟอร์มของตน คุณสมบัติการชำระเงินในแอพจะช่วยลดเวลาระหว่างการค้นหาและซื้อผลิตภัณฑ์ Marketing Land รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ Facebook ได้ประกาศว่ากำลังทดสอบคุณสมบัติโฆษณาใหม่สองอย่าง คือ ประสบการณ์การชำระเงินในแอพสำหรับโฆษณาแบบไดนามิกที่ทำงานในฟีดข่าวของ Facebook ความสามารถในการเปลี่ยนโพสต์การช้อปปิ้งแบบออร์แกนิกบน Instagram เป็นโฆษณาผ่าน Ads Manager ผู้ใช้จำเป็นต้องมีตัวเลือกการชำระเงินแนบกับบัญชี Facebook ของพวกเขา ผู้ใช้สามารถแตะที่ “สั่งซื้อ” เพื่อทำการเช็คเอ้าต์และยืนยันการสั่งซื้อ หลังจากนั้นเขาจะได้รับข้อความยืนยันผ่านทาง Facebook Source: Marketing Land หากการทดสอบนี้สมบูรณ์และเปิดใช้งานทั่วโลก การเพิ่มตัวเลือกชำระเงินด้วยเงินสกุลดิจิทัล Libra ของ Facebook ที่กำลังพัฒนาอยู่ก็สามารถเชื่อมต่อได้ทันทีเมื่อกฎหมายรับรอง แต่ในความเป็นจริง ณ เวลานี้เงินสกุลดิจิทัล Libra ก็ยังมีปัญหาที่ยังต้องรอติดตามกันต่อไป ในส่วนของ Instagram ได้มีการทดสอบเพิ่มคุณลักษณะสำหรับแบรนด์เพื่อสามารถเปลี่ยนโฆษณาช้อปปิ้งเป็นโปรโมชั่นจ่าย Facebook กล่าวว่า “เราได้เห็นพฤติกรรมการช็อปปิ้งเบ่งบานด้วยคุณลักษณะการจับจ่ายสินค้าทั่วไปและตอนนี้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะทดสอบประสบการณ์โฆษณาใหม่นี้กับธุรกิจ ด้วยโฆษณาเหล่านี้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและปรับขนาดจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ่านรูปแบบการช็อปปิ้งและย้ายผู้คนผ่านเส้นทางการซื้อด้วยประสบการณ์ซึ่ง Instagrammers จำนวนมากคุ้นเคยอยู่แล้ว” …

นี่คือวิธีที่ Facebook ติดตามคุณเพื่อการโฆษณา

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม Facebook จึงรู้ว่าคุณกำลังสนใจเรื่องอะไรและคิดอยากทำอะไร ไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปกิน ไปดูหนัง หรือฟังเพลง หรือแม้แต่คิดอยากได้เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านบางชิ้น Facebook ก็ยังแสดงโฆษณาสิ่งที่คุณกำลังคิดบนหน้าฟีดข่าวได้ ก่อนหน้านี้เราได้อ่านบทความเกี่ยวกับการติดตามโฆษณาของ Facebook และ Google ที่ออกมาเปิดเผยโดยอดีตผู้บริหารระดับสูงของ Google ถึงการสร้างตุ๊กตาอวตารในระบบที่สามารถคิดเหมือนตัวคุณ แต่รายงานจาก BuzzFeed จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการติดตามโฆษณาของ Facebook ได้มากขึ้น วิธีที่ Facebook ติดตามคุณเพื่อการโฆษณา ร่องรอยการใช้งานบนแพลตฟอร์ม Facebook และการท่องอินเทอร์เน็ตของคุณได้ถูกเก็บรวบรวมไว้เพื่อเป้าหมายโฆษณาโดยที่คุณอาจไม่ทันรู้ตัวว่าข้อมูลเหล่านี้มีอะไรบ้าง BuzzFeed ได้อธิบายเกี่ยวกับการติดตามโฆษณาของ Facebook ว่า “Facebook รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ในสองวิธี: ขั้นแรกคือข้อมูลที่คุณป้อนลงในเว็บไซต์และแอพ และขั้นที่สองโดยการติดตามเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมในขณะที่คุณไม่ได้ใช้ Facebook นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่คุณเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าคุณจะเห็นโฆษณาในฟีดข่าว Facebook หรือฟีด Instagram ของคุณ โดยทั่วไปแล้ว Facebook จะตรวจสอบตำแหน่งที่คุณไปทุกที่ในอินเทอร์เน็ตและใช้รอยเท้าดิจิทัลของคุณเพื่อกำหนดเป้าหมายคุณด้วยโฆษณา” “Facebook ติดตามประวัติการเข้าชมของคุณผ่านทางปุ่ม "เข้าสู่ระบบด้วย Facebook" ปุ่ม "ชอบ" ความคิดเห็นใน Facebook และรหัสที่มองไม่เห็นเล็กน้อยซึ่งเรียกว่าพิกเซล Facebook …

3 เคล็ดลับสร้าง Personal Brand ที่ไม่เหมือนใครสำหรับคนชอบเก็บตัว

บางคนอาจคิดว่าการที่พวกเขาเป็นคนเก็บตัวไม่ชอบสุงสิงกับใครและมีโลกส่วนตัวสูงจะทำให้พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างธุรกิจ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าคนเก็บตัวที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกนั้นมีอยู่หลายคนเลย และหากคุณได้ยินชื่อพวกเขาเหล่านี้คุณจะนึกถึงธุรกิจหรือแบรนด์ของพวกเขาทันที คนเก็บตัวที่เป็นเจ้าของธุรกิจระดับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐและมีค่าตัวสูงสุดในโลก 5 ท่านได้แก่ Larry Page - ผู้ร่วมก่อตั้งของ Google Bill Gates - ผู้ก่อตั้ง Microsoft Warren Buffet - ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Berkshire Hathaway Mark Zuckerberg - ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Facebook Elon Musk - ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Tesla และ SpaceX 3 เคล็ดลับสร้าง Personal Brand ที่ไม่เหมือนใครสำหรับคนชอบเก็บตัว แม้ว่าคนที่ชอบเก็บตัวจะขึ้อายและชอบอยู่คนเดียวแต่นั่นก็เพราะพวกเขาเพียงแค่ต้องการชาร์จแบตเพื่อพลังงานในการเข้าสังคมครั้งต่อไป คนเก็บตัวมักจะเป็นคนขี้อายและมีปัญหากับการทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในหมู่สาธารณชน หากคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนเก็บตัว นี่คือเคล็ดลับ 3 ประการหากต้องการประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลที่ไม่เหมือนใครของคุณ 1. ไฮเปอร์โฟกัสในแผนของคุณ คนเก็บตัวจะมีคุณสมบัติความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและหลายคนมีจุดแข็งที่ดีมาก พวกเขายังมีทักษะในการวิเคราะห์ …

วิธีสร้างโลโก้ด้วย Looka AI Logo Maker

โลโก้เป็นเรื่องจำเป็นและแสดงถึงตัวตนของแบรนด์ คุณอาจกำลังวางแผนสร้างแบรนด์หรือ Rebrand แต่กำลังมองหาเครื่องมือที่ใช้ง่ายและสามารถออกแบบได้ด้วยตัวเอง Looka เครื่องมือสร้างโลโก้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Logo Maker ใช้ง่ายและมีแบบ สี ตัวอักษร ไอคอน หลากหลายที่คุณสามารถปรับแต่งเองได้ง่าย ๆ วิธีสร้างโลโก้ด้วย Looka ก็เพียงตอบคำถามสองสามข้อเท่านั้นค่ะ ถามตัวเองก่อนว่าอะไรคือ Inspiration ของคุณ Looka เขาได้รวบรวมโลโก้จาก 42 อุตสาหกรรมยอดนิยมรวมถึงเคล็ดลับในการออกแบบอักษร สี และรูปแบบต่างๆ ที่คุณสามารถเริ่มต้นสร้างโลโก้ที่ไม่ว่าคุณจะสร้างความฝันอันยาวนานหรือสร้างความรู้สึกใหม่ๆ แรงบันดาลใจของคุณจะเริ่มต้นที่นี่เพียงแค่คลิ๊กเดียว แรงบันดาลใจที่เขาแยกประเภทไว้ อย่างเช่น Agriculture & Landscaping - เน้นสัญลักษณ์ของธรรมชาติและการเติบโต เหมาะกับธุรกิจที่เกี่ยวกับ เกษตรกรรม, ฟาร์ม, บ้าน, หรือที่ดิน เป็นต้น Animals & Pets - เน้นสัญลักษณ์ของสัตว์เลี้ยงที่คุณรักและความน่ารักน่าเอ็นดูที่เป็นธรรมชาติของมัน เหมาะกับธุรกิจที่เกี่ยวกับ Grooming, ของเล่น, สวนสัตว์, อุปกรณ์และอาหารสัตว์, การบำบัด หรือการเลี้ยงดู …

Facebook Cryptocurrency: มารู้จัก Libra สกุลเงินดิจิทัลขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Blockchain กันหน่อย

วันนี้ Mark Zuckerberg ได้ประกาศแผนการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ที่ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงในชื่อที่แตกต่างกันไปอย่าง FaceCoin, StableCoin, GlobalCoin แต่ในที่สุดนายมาร์คก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า Facebook กำลังร่วมมือกับ 27 องค์กรทั่วโลกในการก่อตั้ง Libra Association ที่ไม่แสวงหากำไรเพื่อสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า “Libra” Mark Zuckerberg โพสต์ข้อความใน Facebook ส่วนตัวว่า “ภารกิจของ Libra คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลกที่ให้อำนาจกับคนหลายพันล้านคนทั่วโลก มันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี blockchain และแผนจะเปิดตัวในปี 2020” วัตถุประสงค์ของการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ก็เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถทำธุรกรรมการเงินอย่างสะดวกบนมือถือโดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดที่อาจไม่ปลอดภัยหรือมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการโอนเงิน Libra จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารแบบดั้งเดิมหรือบริการทางการเงิน “ตอนนี้มีประมาณพันล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร แต่มีโทรศัพท์มือถือ เราหวังว่าจะทำให้ทุกคนส่งและรับเงินได้ง่ายเหมือนที่คุณใช้แอพของเราเพื่อแบ่งปันข้อความและรูปภาพในทันที” นายมาร์คกล่าว ใครบ้างที่สามารถใช้ Facebook Cryptocurrency - Libra ผู้ใช้ WhatsApp และ Messenger จะสามารถเชื่อมกระเป๋าเงินดิจิทัล Calibra ที่ให้คุณส่ง ใช้จ่าย และบันทึก Libra ภายในแอพเดียวโดยข้อมูลที่คุณแบ่งปันกับ …

The Future Of Tourism: เตรียมพร้อมก่อนท่องอวกาศกับ NASA ในปี 2020

เตรียมตัวให้พร้อมหากคุณอยากไปท่องเที่ยวชมความงามนอกโลกในปี 2020 กับ NASA เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน NASA ประกาศว่าพร้อมเปิดให้คนทั่วไปสามารถนั่งจรวดบินไปสู่อวกาศเพื่อท่องเที่ยวชมความงดงามนอกโลกในปีหน้าโดยมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยราว 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.12 ล้านบาท) ต่อคืน การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวบินบนสถานีอวกาศนานาชาติจะมีได้มากถึงสองภารกิจต่อปีโดยแต่ละภารกิจจะยาวนานที่สุดได้ถึง 30 วัน ค่าตั๋วจะรวมไปถึงระบบช่วยชีวิตและสิ่งของจำเป็นทุกอย่าง ภารกิจนี้จะนำคุณไปชมบรรยากาศรอบโลกและรอบดวงจันทร์โดยบริษัท Boeing และ SpaceX ของ Elon Musk ที่ได้รับอนุญาตให้พัฒนาโมดูลลูกเรือสำหรับโปรแกรมเชิงพาณิชย์ โดยยักษ์ใหญ่ด้านการบินและอวกาศทั้งสองได้เตรียมความพร้อมก่อนการทดสอบตามแผนในปีนี้ NASA กำลังเปิดบางส่วนของสถานีอวกาศนานาชาติเพื่อโอกาสทางการค้ามากขึ้น บริษัทคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้จากการใช้ทรัพยากรสถานีอวกาศเพื่อภารกิจที่ท้าทาย เช่น การสร้างสถานีอวกาศใหม่รอบดวงจันทร์และส่งมนุษย์กลับไปที่พื้นผิวดวงจันทร์ https://twitter.com/NASA/status/1137000745922957313 ค่าใช้จ่ายครอบคลุมอะไรบ้าง? Daily Mail ได้แยกรายละเอียดค่าใช้จ่ายสำหรับนักบินอวกาศหนึ่งคนว่าครอบคลุม การช่วยชีวิตและการปฏิรูปห้องน้ำ: $11,250 ต่อวัน อุปกรณ์สำหรับลูกเรือ (อาหารอากาศชุดอุปกรณ์การแพทย์ ฯลฯ ): $22,500 ต่อวัน การเก็บรักษา: $105 ต่อวัน พลังงาน: $42 ต่อกิโลกรัมวัตต์ / ชั่วโมง …

ทำไมคุณจึงไม่ควรซื้อไลค์และผู้ติดตามใน Instagram

แน่นอนว่าสำหรับผู้มีอิทธิพลหรือ Influencers คงจำเป็นต้องมีผู้ติดตามจำนวนมากและต้องการยอดไลค์จำนวนมากเพื่อให้บริษัทต่าง ๆ สนใจจ้างให้โปรโมทผลิตภัณฑ์/บริการของพวกเขา จำนวนการถูกใจหรือจำนวนผู้ติดตามสูงไม่ใช่มาตรฐานในการวัดคุณค่าประสิทธิภาพของผลงานอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันการซื้อไลค์และผู้ติดตามผ่านแอพบุคคลที่สามกลับเป็นอันตรายมากกว่าผลดี เมื่อไม่นานมานี้ Instagram ได้ออกมาประกาศว่าจะลบบัญชีที่ซื้อไลค์และผู้ติดตามปลอม และ Google Play Store ก็ได้กำจัดแอพที่อ้างว่าให้ความช่วยเหลือสื่อโซเชียล แอพเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีข้อเสนอที่ฟังดูดีเกินจริงแต่มันอาจเป็นเรื่องหลอกลวงและต้องการขโมยรหัสผ่าน Instagram ของคุณมากกว่า ทำไมคุณจึงไม่ควรซื้อไลค์และผู้ติดตาม 1. การเพิ่มยอดไลค์และผู้ติดตามผ่านแอพบุคคลที่สามอาจเป็นสาเหตุให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้อย่างง่ายดาย จากการตรวจสอบโดยองค์กรรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Malwarebytes Labs แอพเพิ่มผู้ติดตาม Instagram เหล่านี้เป็นเพียงวิธีที่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงรหัสผ่านของคุณ หากคุณติดตั้งแอพมันจะขอข้อมูลส่วนตัวรวมถึงรหัสผ่าน Instagram และหากคุณใช้รหัสผ่านเดียวกันสำหรับหลายบัญชีคุณอาจเสี่ยงต่อการถูกแฮ็กบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น หากคุณซื้อผู้ติดตามปลอมและให้ที่อยู่อีเมล์ของคุณก็เท่ากับคุณเปิดโอกาสให้มีการแพร่กระจายสแปมที่อาจมาทางอีเมล์และอาจส่งไปหาเพื่อนของคุณแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้บัญชี Instagram ก็ตาม ผู้ส่งอีเมลขยะเหล่านี้สามารถเข้าถึงผู้ติดตามของคุณเพื่อส่งสแปมของคุณได้เช่นกัน ผู้ติดตามของคุณบางคนจะติดตามพวกเขา (เพียงเพราะพวกเขาเห็นคุณ) และเมื่อพวกเขาค้นพบคุณภาพของบัญชีเหล่านี้ผู้ติดตามที่แท้จริงของคุณอาจเลิกติดตามคุณ 2. Instagram กำลังกำจัดบัญชีที่ซื้อไลค์และผู้ติดตามปลอม เมื่อไม่นานมานี้ Instagram ได้ออกมาประกาศว่าจะลบบัญชีที่ซื้อไลค์และผู้ติดตามปลอม ตอนนี้แพลตฟอร์มกำลังใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อช่วยระบุบัญชีที่มีผู้ติดตามปลอมและไลค์โดยการลบออก นอกจากนี้ยังแจ้งว่าจะแจ้งเตือนผู้ที่เคยทำสิ่งนี้ผ่านแอพของบุคคลที่สามว่าพวกเขาควรเปลี่ยนรหัสผ่านเนื่องจากความเสี่ยงที่เกิดจากแอพเหล่านั้น การซื้อผู้ติดตามปลอมและไลค์ปลอมยังขัดต่อนโยบายและข้อกำหนดในการให้บริการของ Instagram และบัญชีของคุณอาจถูกระงับเนื่องจากมีส่วนร่วมในการละเมิดกฎเกณฑ์ของ Instagram 3. ผู้ติดตามปลอมและไลค์ปลอมจะไม่มีส่วนร่วมกับโพสต์ของคุณ ส่วนใหญ่แล้วผู้ติดตามปลอมหรือไลค์ปลอมที่คุณซื้อมาไม่ใช่คนจริง ๆ แต่พวกมันคือ “บอท” …

3 เหตุผลอนาคตของที่ทำงานคือระบบสั่งการด้วยเสียง #VoiceAssistant

หนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีปี 2019 ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้คือ “ระบบสั่งการด้วยเสียง” หรือ “Voice Assistant” ทำไมระบบสั่งการด้วยเสียงจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเรา? มาทำความเข้าใจการทำงานของ Voice Assistant กันก่อนค่ะ Voice Assistant ต่างกับ Virtual Assistant บางคนอาจยังสับสนระหว่าง Voice Assistant กับ Virtual Assistant ว่ามันคือระบบเดียวกันหรือไม่ ตรงนี้คงต้องทำความเข้าใจกันก่อน ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) คือ เทคโนโลยีพื้นฐานที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในการพัฒนาระบบการจดจำเสียง (Voice Recognition), การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) และการสังเคราะห์เสียงพูด (Speech Synthesis) เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ผ่านโทรศัพท์ แท็บเล็ต ลำโพง กล่องสตรีมมิ่ง อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่น ๆ หรือแอปพลิเคชั่นการจดจำเสียงที่ปัจจุบันมีการติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ ระบบสั่งการด้วยเสียงที่ได้รับความนิยม เช่น Alexa ของ Amazon, Cortana …