ในขณะที่มีการพูดถึงเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามา Disrupt วิถีการทำงานของมนุษย์มากขึ้น หลายคนเป็นห่วงว่าพวกเขาจะตกงานไหมหากบริษัทนำหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่ตำแหน่งของเขา แล้วพวกเขาควรเสริมหรือเรียนรู้ทักษะอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้รอดพ้นจากโอกาสที่จะถูกเลิกจ้างและเสียตำแหน่งงานให้หุ่นยนต์
วิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับวิกฤตการตกงานก็คือ คุณจำเป็นต้องพัฒนาตนเอง เรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์และเตรียมพร้อมกับแนวโน้มอนาคตของการจ้างงาน ทักษะจึงมีความสำคัญอย่างมาก หลายคนเชื่อว่าทักษะที่ตรงกับงานเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทตัดสินใจจ้างพวกเขาและทักษะในความสามารถถ่ายทอดหรือสอนผู้อื่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการเลื่อนตำแหน่งไปสู่สายงานบริหาร
รายงานจาก LinkedIn ระบุว่า 90% ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าทักษะมีความสำคัญยิ่งกว่าตำแหน่งงาน
นอกจากนี้ 89% ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่บอกว่าความสำเร็จไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณทำสำเร็จในชีวิตแต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นทำ และ 39% รู้สึกว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดเมื่อสอนคนอื่น
ทักษะที่บริษัทต้องการมากที่สุดในปี 2019
แนวโน้มการจ้างงานปรับเปลี่ยนอยู่เสมอหากเราเตรียมพร้อมในทักษะตามที่บริษัทต้องการได้ก็เท่ากับเราได้เปรียบผู้สมัครคนอื่น ๆ
LinkedIn ได้สรุปทักษะที่บริษัทต้องการมากที่สุดในปี 2019 ที่ไม่ใช่เพียงแค่ Hard Skills แต่ยังรวมถึงทักษะ Soft Skills ด้วย ทักษะเหล่านี้ได้แก่
ทักษะยาก (Hard Skills) อย่างเช่น
- Cloud Computing เป็นทักษะที่มีการค้นหาผู้สมัครที่เหมาะสมมากที่สุดตามข้อมูลของ LinkedIn เนื่องจากระบบคลาวด์กำลังถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในเกือบทุกอุตสาหกรรม บริษัทต่าง ๆ จึงกำลังมองหาวิศวกรที่มีทักษะเพื่อรองรับความต้องการนี้
- Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ ได้เข้ามามีบทบาทต่อการพัฒนาระบบเทคโนโลยีล้ำสมัยและสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ มากมายเพื่อช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกขึ้น ทักษะนี้จึงมีความต้องการสูงในตลาดการจ้างงาน
- Mobile Application Development หรือการพัฒนาแอปพลิเคชั่นมือถือ แอพมือถือมีการพัฒนาและปรับปรุงอยู่เสมอเพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคและมือถือได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันรวมทั้งการทำงานของผู้คนไปแล้ว หากขาดแอปพลิเคชั่นมือถือก็คงเป็นเพียงแค่โทรศัพท์เคลื่อนที่ธรรมดาทั่วไป นักพัฒนาแอปพลิเคชั่นมือถือจึงเป็นที่ต้องการมากขึ้น
- Data Science หรือวิทยาศาสตร์ข้อมูล เป็นทักษะที่ต้องการมากในตลาดในหลายปีที่ผ่านมาและยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- Natural Language Processing หรือการประมวลภาษาธรรมชาติ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กับการค้นหาด้วยเสียงและการสั่งงานด้วยเสียง เทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาใช้แล้วอย่างเช่น Alexa และ Google Home เป็นต้น ทักษะนี้จึงมีความสำคัญและเป็นที่ต้องการของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่าง ๆ
ทักษะอ่อนนุ่ม (Soft Skills) อย่างเช่น
- Creativity ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาในอนาคต
- Persuasion การชักชวนหรือการจูงใจ เป็นทักษะที่ช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายได้อย่างดี ทำอย่างไรให้คนอยากซื้อสินค้า/บริการของคุณ
- Collaboration ความร่วมมือทำงานร่วมกันจะช่วยสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ
- Adaptability การปรับตัวจะช่วยให้คุณรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างดี
- Time Management การบริหารเวลาที่ดีจะช่วยจัดการงานให้เสร็จตามเป้าหมาย
ก่อนปิดหน้านี้
นักบริหารระดับสูงมากกว่า 57% กล่าวว่าทักษะที่อ่อนนุ่มมีความสำคัญมากกว่าทักษะที่ยาก AI สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ดีในทักษะยากหรืองานซ้ำ ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความคิดและสไตล์แต่มันไม่สามารถทำงานที่ต้องใช้ความคิดในการตัดสินใจ AI ไม่สามารถปรับบทสนทนาตามความเหมาะสมของสถานการณ์หรือระหว่างการสนทนา มันจะพูดตามโปรแกรมที่ถูกบันทึกไว้ล่วงหน้าซึ่งต่างกับมนุษย์ที่สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะการพูด การจัดการ ความคิดได้ตามประสบการณ์และความชำนาญ ทักษะอ่อนนุ่มจึงจำเป็นอย่างมากในขณะที่โลกเรากำลังเดินไปสู่ยุคที่หุ่นยนต์เข้ามาแย่งงาน
หากคุณต้องการอยู่รอดในตลาดแรงงานไปอีกนานคงต้องเรียนรู้เพิ่มเติมในทักษะที่บริษัทต้องการมากที่สุดในปี 2019 และปีต่อ ๆ ไป เพื่อรับกับสถานการณ์ตลาดแรงงานและความต้องการของบริษัทต่าง ๆ ข่าวดี คือ คุณสามารถเรียนทักษะเหล่านี้ได้ฟรีกับ LinkedIn Learning ที่นี่ค่ะ
One thought on “LinkedIn เปิดสอนทักษะที่บริษัทต้องการมากที่สุดในปี 2019 ฟรี”